Wednesday, December 5, 2007

คำถามท้ายหน่วยการเรียนที่ 4

คำถามท้ายหน่วยการเรียนที่ 4

จงเติมคำลงในช่องวางต่อไปนี้ให้สมบูรณ์และถูกต้อง

1. คำว่า Communis แปลว่า คล้ายคลึงหรือร่วมกัน หรือความหมายอีกนัยหนึ่งคือ การสื่อสาร

2. การสื่อความหมาย หมายถึง กระบวนการส่งหรือถ่ายทอดความรู้ เนื้อหา สาระ ความรู้สึก นึกคิด ทัศนคติ ค่านิยม ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์จากบุคคลฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า " ผู้ส่ง" ไปยังอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเรียกว่า " ผู้รับ"

3. Sender _ Message _ Channel _ Receiver

4. สาร หมายถึง เนื้อหา สาระ ความรู้สึก ทัศนคติ ทักษะ ประสบการณ์ที่มีอยู่ในผู้ส่ง หรือแหล่งกำเนิด

5. Elements หมายถึง องค์ประกอบย่อย ๆ พื้นฐานที่จำเป็นต้องมี
ตัวอย่าง เช่น สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ หรือสีแดง สีเหลือง เส้น เป็นต้น

6. Structure หมายถึง โครงสร้างที่เกิดจากการนำเอาองค์ประกอบย่อย ๆ มารวมกัน
ตัวอย่าง เช่น คำ ประโยค หรือสีสันของรูปร่าง รูปทรง เป็นต้น

7. Content หมายถึง เนื้อหา หรือข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิด หรือความต้องการของผู้ส่ง
ตัวอย่าง เช่น ข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร สอดคล้องเหมาะสมกับอะไร

8. Treatment หมายถึง วิธีการเลือก การจัดรหัสและเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบที่จะสามารถถ่ายทอดความต้องการของผู้ส่งไปยังผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ส่งมีวิธีการและเทคนิคเฉพาะตัว ซึ่งบางทีเราเรียกว่า Style ในการสื่อสาร
ตัวอย่าง เช่น การส่งสารโดยใช้เสียงเพลงเป็นตัวนำ หรือส่งโดยการอัดเทปข้อความในสาร

9. Code หมายถึง รหัสสาร ซึ่งเป็นกลุ่มสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาจัดแทนความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ
ตัวอย่าง เช่น ภาษาพูด ภาษาดนตรี ภาพวาด กิริยา ท่าทาง

10. อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายนอก เช่น เสียงดังรบกวน อากาศร้อน กลิ่นไม่พึงประสงค์ แสงแดด ฝนสาด เป็นต้น

11. อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายใน เช่น ความเครียด อารมณ์ขุ่นมัว อาการเจ็บป่วย ความวิตกกังวล ความไม่ปกติทางร่างกาย

12. Encode หมายถึง การเข้ารหัส หรือการแปลความต้องการของตนให้เป็นสัญญาณต่าง ๆ ได้

13. Decode หมายถึง การถอดรหัส หรือการแปลความจากสัญลักษณ์หรือสัญญาณต่าง ๆ ที่ได้

14. จงอธิบายการสื่อความหมายในการเรียนการสอนมาให้ครบถ้วนและถูกต้อง
การสื่อความหมายในการเรียนการสอน เป็นกระบวนการสื่อความหมายที่นำมาใช้กับการเรียนการสอน เพื่อให้การเรียนการสอนนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยครูทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร ทำหน้าที่ ส่งสาร ( เนื้อหาและหลักสูตร) โดยผ่านช่องทางหรือสื่อ ไปสู่ผู้รับสาร ( ผู้เรียน) เพื่อให้การเรียนการสอน มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้
1. ครูในฐานะเป็นผู้ส่งและกำหนดจุดมุ่งหมายและระบบการเรียนการสอน ควรมีพฤติกรรม ดังนี้
1.1 ต้องมีความเข้าใจในเนื้อหาที่จะสอนเป็นอย่างดี
1.2 มีความสามารถในการสื่อความหมาย เช่น การพูด การเขียน ลีลา ท่าทาง เป็นต้น
1.3 ต้องจัดบรรยากาศในการเรียนเพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้
1.4 ต้องวางแผนการจัดระบบการถ่ายทอดความรู้ให้เหมาะสมต่อเนื้อหา และผู้เรียน
2. เนื้อหา หลักสูตร ตลอดจนทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ของครู หรือสิ่งที่ครูต้องการถ่ายทอดไปสู่ผู้เรียน ควรมีลักษณะดังนี้
2.1 เหมาะสมกับเพศ และวัยของผู้เรียน
2.2 สอดคล้องกับเทคนิควิธีสอน หรือสื่อต่าง ๆ
2.3 เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา ควรปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
3. สื่อหรือช่องทาง เป็นตัวกลางหรือพาหะที่จะนำเนื้อหาจากครูผู้สอนเข้าไปสู่ภายในของผู้เรียน ลักษณะของสื่อ ควรมีลักษณะดังนี้
3.1 มีศักยภาพเหมาะสมกับธรรมชาติของเนื้อหา
3.2 สอดคล้องกับธรรมชาติของประสาทสัมผัสของสื่อแต่ละประเภท
3.3 เด่น สะดุดตา ดูง่าย สื่อความหมายได้ดี
3.4 เป็นสื่อที่สามารถขจัด หรือป้องกันการรบกวนที่จะเกิดขึ้นระหว่างส่งสาร
4. ผู้รับสาร คือ นักเรียนหรือผู้เรียน ควรมีลักษณะ ดังนี้
4.1 มีความสมบูรณ์ทางด้านร่างกาย ระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5
4.2 มีความพร้อมทางด้านจิตใจ อารมณ์มั่นคงปกติ
4.3 มีทักษะในการรับสื่อและการสื่อความหมาย
4.4 มีเจตคติต่อครูผู้สอนและเนื้อหาวิชา

15. จงอธิบายถึงความล้มเหลวของการสื่อสารในการเรียนการสอน
กระบวนการเรียนการสอนมักประสบความล้มเหลว เกิดจากอุปสรรคหลายประการ ดังนี้
1. ครูผู้สอนไม่บอกวัตถุประสงค์ในการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทราบก่อนลงมือสอน ทำให้ผู้เรียนขาดเป้าหมายในการเรียน
2. ครูผู้สอนไม่คำนึงถึงข้อจำกัดและขีดความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน จึงมักใช้วิธีสอนแบบเดียวกันทุกคน
3. ครูผู้สอนไม่สนใจที่จะจัดบรรยากาศขจัดอุปสรรคและสร้างความพร้อมให้แก่ผู้เรียนก่อนลงมือสอน
4. ครูผู้สอนบางคนใช้คำยาก ทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจความหมายของคำ และเนื้อหาโดยรวม
5. ครูผู้สอนมักนำเสนอเนื้อหารวกวน สับสน รวดเร็ว ไม่สัมพันธ์ต่อเนื่อง กระโดดไปมาเข้าใจยาก
6. ครูผู้สอนไม่สนใจที่จะใช้สื่อการเรียนหรือใช้สื่อการเรียนไม่เหมาะสมกับเนื้อหา และระดับของผู้เรียน
ดังนั้น ในกระบวนการเรียนการสอนจึงควรคำนึงถึงอุปสรรคต่างๆ และพยายามขจัดให้หมดไป เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

No comments: